สวัสดีค่าา.. วันนี้จะมาพูดถึง Essence ที่กระแสแรงที่สุดในตอนนี้
จะเป็น Essence ตัวไหนไปไม่ได้ นอกจาก
"Life Plankton Essence จาก Biotherm"
"Life Plankton Essence จาก Biotherm"
ทำไม Essence ตัวนี้ถึงเป็นที่สนใจ ไปดูกันเลยค่าา
.
.
.
Life Plankton คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ?
คงจะเป็นประโยคคำถามยอดฮิตจาก Essence ขวดนี้
Plankton คือ สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อาศัยอยู่ในน้ำ มีหลากหลายชนิด
แต่สิ่งที่ Biotherm ได้ศึกษานำมาสร้างส่วนผสมของ Life Plankton™ คือ
จุลินทรีย์ จากน้ำพุร้อนกลางเทือกเขา Pyrenees
ซึ่ง Biotherm ได้ทำการวิจัย แล้วพบว่า
Life Plankton นั้นช่วยกระตุ้นกระผลัดเซลล์ผิว และช่วยรักษาความชุ่มชื้นอีกด้วย
.
.
.
และ Biotherm Life Plankton Essence เคลมแรงถึงขนาดที่ว่า
"สัมผัสถึงผิวอ่อนเยาว์ลง ร่วม 3 ปี ใน 8 วัน"
นั่นเป็นเพราะ ใน Biotherm Life Plankton Essence นั้น มีส่วนผสมของ
Life Plankton™ อยู่ถึง 5%
Life Plankton™ อยู่ถึง 5%
ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดเท่าที่ทางแบรนด์เคยใช้มาเลยล่ะ
.
.
.
รู้จักตัวผลิตภัณฑ์กันไปแล้ว มาดูเนื้อสัมผัส และผลลัพธ์ที่ได้กันจะดีกว่าา
ขวดที่เราได้ลองเป็นขนาดทดลอง 30 ml ซึ่งเหลือเฟือสำหรับการทดลองใช้ 8 วัน
วิธีใช้จากข้างขวด: ทาบริเวณใบหน้า เขย่าขวดก่อนใช้
เนื้อเอสเซ้นส์: มีความขุ่นนิดๆ ไม่ได้ใสซะทีเดียว เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย
มีความหนืดเล็กน้อย
มีความหนืดเล็กน้อย
กลิ่น: เอสเซ้นส์ตัวนี้มีน้ำหอมนะคะ แต่ก็กลบกลิ่นตุ่ยๆได้ไม่หมด
แต่ใช้ไปทุกวันมันก็ชินเองแหละค่ะ
แต่ใช้ไปทุกวันมันก็ชินเองแหละค่ะ
ไม่ได้เหม็นจนขนาดไม่อยากใช้ แต่ก็ไม่ได้หอมจนถึงขนาดต้องยกขึ้นมาดมนะคะ
สำหรับเราเรารับได้สบายมากค่าา เพื่อผิวสวย!
สำหรับใครที่ระคายเคืองง่ายควรเทสก่อนนะคะ แต่สำหรับเราไม่แพ้
วิธีใช้ของเรา: ล้างหน้า > โทนเนอร์ > Biotherm Life Plankton Essence > มอยส์เจอร์ไรเซอร์
ถ้าเป็นตอนเช้าเราจะทากันแดดต่อ และแต่งหน้าตามปกติ
ปริมาณที่เราใช้ ประมาณ เหรียญห้าบาท
สภาพผิวของเรา: ผิวผสม ทีโซนมัน ยูโซนค่อนข้างแห้ง ผิวเป็นสิวง่าย โดยเฉพาะเวลามีประจำเดือน และมีรอยดำ รอยแดงจากสิว ไม่ใช่คนผิวแพ้ง่าย
Lifestyle: เราทำงานและนอนไม่เป็นเวลา ซึ่งบางวันเราต้องเข้าเวรกะดึก
และเราก็นอนไม่เพียงพอเท่าไหร่ ตัวทำลายผิวเลย ><
ผลลัพธ์หลังใช้ทันที: ผิวนุ่มขึ้นทันที คือเอสเซ้นส์ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดีจริงๆ
เวลาเราแต่งหน้าต่อ รู้สึกเกลี่ยพวกเบสเมคอัพได้ง่ายขึ้น
คือรู้สึกว่ามันทำให้ผิว smooth ขึ้น
คือรู้สึกว่ามันทำให้ผิว smooth ขึ้น
และยังทำให้เครื่องสำอางติดทนอีกด้วย คือหลังใช้ครั้งแรกรู้สึกได้เลยค่ะ
ผลลัพธ์หลังใช้ 8 วัน: เราใช้แล้วไม่แพ้นะ แต่ช่วงที่เราทดลองเป็นช่วงที่เรามีประจำเดือน ซึ่งทำให้เราสิวขึ้นโดยปกติอยู่แล้ว แต่สิวเราขึ้นน้อยลง และสิวที่ขึ้นยังอักเสบน้อยลงอีกด้วย ผิวเรานุ่มขึ้น แน่นขึ้น Smooth ขึ้น เพราะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ดูจากริ้วความแห้งใต้ต้าได้เลย หายไปหมดเลย รูขุมขนก็เหมือนจะกระชับขึ้น คือโดยรวมเห็นผลเกือบครบทุกข้อที่เค้าเคลม ไม่ว่าจะเป็น ผิวค่อยๆเปล่งปลั่งขึ้น คือผิวเราไม่โทรม แม้เราต้องเข้าเวรกะดึก ริ้วรอยลดเลือน (สำหรับเราเห็นเรื่องริ้วผิวจากความแห้งนะคะ) ผิวหยาบกระด้างลดลง ผิวชุ่มชื้นฉ่ำน้ำ ผิวยืดหยุ่น ผิวนุุ่ม ผิวเรียบเนียน ขาดก็แต่สีผิวซึ่งเรายังไม่เห็นผล อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้อีกหน่อย
ราคา และปริมาณ: ขนาดจริง 125 มล. ราคา 2,300 บาท
เราว่าเอสเซ้นส์ขวดนี้คุณภาพเกินราคานะ
เราว่าเอสเซ้นส์ขวดนี้คุณภาพเกินราคานะ
เพราะใช้แล้วเห็นผลจริง และยังใช้ปริมาณครั้งละนิดเดียวอีกด้วย
ขวดนึงคงใช้ได้หลายเดือนแน่ๆ
ขวดนึงคงใช้ได้หลายเดือนแน่ๆ
Quick Tip: เราสามารถนำเอสเซ้นส์มาทำเป็นมาส์กหน้าได้ด้วยนะคะ หลังจากล้างหน้าและปรับสภาพผิวแล้ว ให้หยดเอสเซ้นส์ใส่สำลีหรือแผ่นมาส์กเปล่าให้ชุ่ม และนำไปมาส์กหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที และนำมาส์กออก แล้วนวดเบาๆให้เอสเซ้นส์ซึมสู่ผิวได้เลยค่ะ หรือจะนวดผิวตามรูปด้านล่างก็ได้ประโยชน์ไปอีกแบบนะคะ
.
.
.
สรุป
ข้อดี: ให้ความชุ่มชื้นได้ดี
ลดการอักเสบผิวได้ดี
หาซื้อได้ง่ายตามเคาน์เตอร์ Biotherm ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
ข้อเสีย: มีน้ำหอม
หากใช้มากไปอาจจะทำให้เหนอะหน่ะได้
สุดท้ายนี้ อยากให้ดูรีวิวไว้เป็นแนวทางนะคะ
เราเขียนออกมาด้วยความรู้สึกที่เราได้รับจริงๆ
เราเขียนออกมาด้วยความรู้สึกที่เราได้รับจริงๆ
ซึ่งผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ออกมากก็อาจจะแตกต่างกันได้ค่าาา